ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องกับ Bitcoin ที่ได้ที่มีการเพิ่มขึ้นของมูลค่าที่สามารถเข้าใกล้เป้าหมายมูลค่า 50,000 ดอลลาร์ในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็ยังแค่เข้าใกล้ ล่าสุดนี้ได้หดตัวลงมาอยู่ที่ประมาณ 46,000 ดอลลาร์มูลค่าของ Bitcoin ได้มีการหดตัวลดลงไป
หลังจากที่มีความใกล้เคียงจะทะลุเพดานของระดับมูลค่าสูงสุด 50,000 ดอลลาร์ (1,495,498.84 บาท) โดยสูงสุดอยู่ที่ระดับมูลค่า 49,714.66 ดอลลาร์ (1,486,964.33 บาท) เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งในเวลานี้ได้ตกลงมาอยู่ในระดับมูลค่า 46,911.17 ดอลลาร์ (1,402,743.22 บาท)
ซึ่งการหดตัวลงนั้นก็ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะแค่บิตคอยน์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงสกุลเงินดิจิทัลตัวอื่นอีกด้วย อาทิ Ethereum – $1,737.27 (51,961.71 บาท), Chainlink – $31.58 (944.56 บาท) และ Litecoin – $198.98 (5,951.49 บาท)
ถือว่าเป็นการลดลงที่มากที่สุดนับตั้งแต่ที่ Tesla บริษัทนวัตกรรมเทคโนโลยีชื่อดัง ได้ทำการกว้านซื้อไปในมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ และเริ่มทำการรับสกุลเงินนี้ในการใช้จ่ายแลกเปลี่ยน
โดย Chris Weston หัวหน้าทีมวิจัยศึกษาที่ Melbourne brokerage Pepperstone ได้กล่าวว่า “การซื้อขายอย่างไร้เดียงสาของบรรดาผู้เล่นรายใหญ่นี้จะยังคงทำการพลักให้มูลค่านั้นสูงขึ้นไปอีก เราอาจจะเห็นการแลกเปลี่ยนขนาดใหญ่อีก 1-2 ก็เป็นได้”
“แต่คำถามที่ตามมาก็คือ มันก็โอเคที่คุณต้องการที่จะซื้อ The Pullback แต่ทว่า The Pullback ที่เราพูดถึงอยู่นี้จะมีขนาดใหญ่แค่ไหน”
นอกเหนือจากการลงทุนของทาง Tesla แล้วนั้น ก็ยังมีในส่วนของ ธนาคาร BNY Mellon ได้ประกาศเมื่ออาทิตย์ก่อนว่าจะมีการจัดตั้งหน่วยงาน / แผนกงานใหม่ เพื่อช่วยเหลือ และรองรับลูกค้า และหลักทรัพย์การลงทุนทางดิจิทัล
นักกอล์ฟจมน้ำ เสียชีวิต หลังผลัดตกลงบ่อน้ำภายในสนามกอล์ฟ ขณะกำลังเดินตามหาลูกกอล์ฟของเขา เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ สำนักข่าว CNN รายงานว่า นักกอล์ฟชาวฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา จมน้ำเสียชีวิต ขณะที่กำลังลูกกอลฟ์ของเขาที่หายไป เมื่อช่วงเวลาประมาณ 7 นาฬิกาของวันอาทิตย์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น
โดย เจ้าหน้าที่ระบุว่า ผู้ตายหายตัวไปในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งจากการสอบปากคำพยานระบุว่าพวกเขาเห็นผู้ตายครั้งสุดท้าย ในขณะที่ชายชาวฟลอริดากำลังตามหาลูกกอล์ฟใกล้ๆกับบริเวณ กรีน ของหลุมที่ 3
ในบริเวณจุดเกิดเหตุนั้น เจ้าหน้าที่พบไม้กอล์ฟตกอยู่กับพื้นใกล้กับบ่อน้ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งเจ้าหน้าที่ดำน้ำไปยังจุดดังกล่าว ก่อนจะพบศพของผู้ตายจมอยู่ใต้น้ำในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะทำการชันสูตรพลิกศพเพิ่มเติม เพื่อยืนยันว่าเหตุการณ์นั้นเป็นอุบัติเหตุจริง อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบเบื้องต้น ยังไม่พบความผิดปกติ
UN ประณาม การใช้ความรุนแรง ม็อบเมียนมา หลังมีผู้เสียชีวิต 18 ศพ
สหประชาชาติได้ออกมาประณามการใช้ความรุนแรงกับ ม็อบเมียนมา ที่ออกมาแสดงพลังคัดค้านการรัฐประหาร จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 ศพ
รัฐประหารเมียนมา – เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ เว็ปไซต์สหประชาชาติ หรือ UN ได้ออกมาเปิดเผยว่ามีผู้เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมต่อต้านรัฐประหารเมียนมาอย่างน้อย 18 ศพ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 30 ราย หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนจริง เพื่อสลายการชุมนุมคัดค้าน ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา
นาย อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ได้ออกมาประณามการใช้ความรุนแรงในครั้งนี้ พร้อมระบุว่า เขารู้สึกเป็นกังวลกับตัวเลขผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมระบุว่าการใช้ความรุนแรงกับชุมนุมที่สงบ และการจับกุมผู้ประท้วง เป็นการกระทำที่ไม่สามารถยอมรับได้
ซึ่งนาย กูเตอร์เรส ยังได้ออกมาเรียกร้องให้ผู้นำในหลายประเทศออกมาร่วมกันแสดงพลัง หนุนประชาชนและกดดันให้ กองทัพเมียนมา เคารพเจตจำนงของประชาชนเมียนมา และก้าวลงจากตำแหน่ง
ย้อนกลับไปเมื่อวันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ หรือเดือนที่ผ่านมานั้นกองทัพได้ทำการก่อรัฐประหารพร้อมจับกุมนาง อองซานซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา ในข้อหาโกงการเลือกตั้งเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน ปีที่ผ่านมา ซึ่งพล.อ. มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมารับปาก จะจัดการเลือกตั้งทันทีหลังยึดอำนาจ 1 ปีตามที่ประกาศเอาไว้
ทั้งนี้ พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ไม่เคยแสดงหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่ามีการโกงการเลือกตั้งขึ้น
ซึ่งจากการก่อรัฐประหารครั้งนี้นำไปสู่เหตุชุมนุมต่อเนื่องหลายวัน จนนำไปสู่เหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้น และมีผู้เสียชีวิตรวมแล้วอย่างน้อย 27 ศพ
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง